เตือนภัยผู้ใช้ Windows! ตรวจสอบสถานะ BitLocker เสี่ยงข้อมูลถูกล็อคถาวร

NT cyfence
NT cyfenceทีมงาน NT cyfence ที่พร้อมให้คำปรึกษา และ ดูแลความปลอดภัยให้กับทุกองค์กร อย่างครบวงจร ด้วยทีมงานมืออาชีพ

ผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows ควรระวังถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากฟีเจอร์ “BitLocker” ซึ่งแม้จะถูกออกแบบมาเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูล (Data Security) แต่กำลังกลายเป็น “ดาบสองคม” สร้างผลกระทบต่อผู้ใช้จำนวนมากที่อาจเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ โดยไม่รู้ตัวหรือไม่ตระหนัก (Unaware) และไม่ได้จัดเก็บ Recovery Key ไว้ในที่ปลอดภัย

ซึ่ง BitLocker เป็นฟีเจอร์การเข้ารหัสระดับดิสก์ (Full-Disk Encryption) ที่ติดตั้งมาพร้อมกับ Windows มีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญ (Sensitive Data) โดยเข้ารหัสไดรฟ์ทั้งหมดช่วยป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต เช่น ในกรณีโดนขโมยฮาร์ดดิส เป็นต้น

ในปัจจุบันมีรายงานปัญหาจากผู้ใช้งานหลายรายเกี่ยวกับ BitLocker ตั้งแต่การเปิดโดยอัตโนมัติเมื่อติดตั้งและ Login ด้วย Microsoft Account ผ่าน OoBE (การตั้งค่าเริ่มต้นครั้งแรกหลังจากซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่) ซึ่งเป็นชุดของหน้าจอการตั้งค่าที่ปรากฏเมื่อผู้ใช้จะพบหากเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่หรือหลังจากการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows (Windows Out-of-Box Experience) หรือแม้กระทั่งปัญหาลืม Recovery Key ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลภายในเครื่องได้

สาเหตุหลักของปัญหานี้

  1. Update Windows แล้วระบบเปิด BitLocker ให้เองโดยอัตโนมัติ
  2. การเปิดใช้งานโดยไม่รู้ตัว (Unintended Activation): ผู้ใช้หลายรายไม่ทราบว่า BitLocker ถูกเปิดใช้งานระหว่างการตั้งค่าอุปกรณ์ใหม่ หรือหลังการอัปเดต Windows หรืออาจจะได้รับเครื่องคอมพิวเตอร์มาโดยทำการเปิดการตั้งค่าไว้ก่อนแล้ว
  3. การสูญหายของ Recovery Key: ผู้ใช้ไม่ได้สำรอง (Backup) หรือจัดเก็บ Recovery Key 48 หลักไว้ ทำให้เมื่อเกิดปัญหา เช่น การอัปเดต Hardware/Firmware จะไม่สามารถเข้าถึงไดรฟ์ได้

NT cyfence แนะนำให้ผู้ใช้งาน Windows ทุกท่าน ตรวจสอบสถานะ BitLocker บนอุปกรณ์ของตนเอง และหากพบว่ามีการเปิดใช้งาน ให้ดำเนินการสำรอง Recovery Key โดยบันทึกลงในบัญชี Microsoft, พิมพ์เก็บไว้, หรือบันทึกใน USB อย่างปลอดภัยทันที เพื่อป้องกันความเสี่ยงข้อมูลสูญหายถาวร

วิธีตรวจสอบว่าเปิดการตั้งค่า BitLocker อยู่หรือไม่

วิธีที่ 1 : เช็คผ่าน “Control Panel” (Windows 11)

1. กดปุ่ม Windows + S แล้วพิมพ์คำว่า Bitlocker

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

2. เลือก Manage BitLocker จะมีรายการ Drive ทั้งหมด ในเครื่อง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

3. จะเห็นสถานะของแต่ละไดรฟ์

  • ถ้าเขียนว่า “BitLocker On” → แปลว่าเปิดใช้งานอยู่
  • ถ้าเขียนว่า “BitLocker Off” → แปลว่ายังไม่ได้เปิด

วิธีที่ 2 : เช็คผ่าน “File Explorer”

  1. เปิด This PC
  2. ดูที่ไอคอนเหนือไดรฟ์ — ถ้ามีรูปแม่กุญแจ 🔒 แปลว่าเปิด BitLocker อยู่

วิธีการเก็บรักษากุญแจกู้คืน (Recovery Key)

  1. ล็อกอินเข้าสู่บัญชี Microsoft ของคุณผ่านเว็บเบราว์เซอร์ที่: account.microsoft.com/devices/recoverykey
  2. เมื่อ Login เข้าไปแล้ว คุณจะพบกุญแจกู้คืน 48 หลักของไดรฟ์ที่ถูกเข้ารหัส ให้จดบันทึกหรือพิมพ์เก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัยและต้องไม่อยู่ในคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น

ใครควรเปิดใช้งาน BitLocker

  • บริษัทหรือองค์กรที่มีการจัดข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น การศึกษา, สุขภาพ, กฏหมาย เป็นต้น
  • ผู้ใช้งานที่ต้องเดินทางบ่อย (ความเสี่ยงจากคอมพิวเตอร์สูญหาย)
  • บางครั้งหรือทำงานจากระยะไกล (ความเสี่ยงจากการถูก Access เข้าทาง Physical)
  • สำหรับผู้ที่ต้องการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล

ที่มา: notebookspec.com ,tomshardware.com

บทความที่เกี่ยวข้อง