5 ภัยคุกคามไซเบอร์ที่ต้องพึงระวังในปี 2018

18 ธันวาคม 2017

สุธีร์ กิจเจริญการกุล
สุธีร์ กิจเจริญการกุลนักเขียนและผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Techtalkthai เว็บไซต์ที่รวบรวมข่าวสารทางด้านผลิตภัณฑ์ IT ระดับใช้งานในองค์กรโดยเฉพาะ

บทความนี้เป็นสรุปแนวโน้มภัยคุกคามไซเบอร์ที่ควรจับตามองในปี 2018 สำหรับให้แต่ละองค์กรนำไปศึกษาและใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนกลยุทธ์ด้านความมั่นคงปลอดภัยในปีถัดไปอย่างเหมาะสม โดยทีมงาน NT cyfence ได้สรุปเนื้อหามาจากรายงาน McAfee Labs 2018 Threats Predictions Report รวมทั้ง 5 ข้อ ดังนี้

1. Machine Learning ศึกใหญ่ระหว่างฝั่งโจมตีกับฝั่งป้องกัน

เทคนิค Machine Learning เริ่มถูกนำมาใช้เพื่อประมวลผลข้อมูลบนระบบเครือข่ายและอุปกรณ์ปลายทางเพื่อค้นหาช่องโหว่ พฤติกรรมต้องสงสัย หรือการโจมตีแบบ Zero-day อย่างไรก็ตาม ฝั่งแฮกเกอร์เองก็สามารถนำ Machine Learning มาใช้เพื่อสนับสนุนการโจมตีของตนเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้จากการป้องกันของอีกฝ่าย สร้างโมเดลในการขัดขวางการตรวจจับการโจมตี หรือเจาะช่องโหว่ใหม่ที่เพิ่งค้นพบให้เร็วกว่าที่แพตช์จะถูกอัปเดต เป็นต้น ก่อให้เกิดเป็นการปะทะกันระหว่างเทคนิค Machine Learning ของฝั่งโจมตีและฝั่งป้องกัน

เพื่อให้มีชัยเหนือแฮกเกอร์ องค์กรควรเลือกใช้เทคนิค Machine Learning ที่มีประสิทธิภาพ และนำเทคนิคดังกล่าวมาผสานรวมกับกลยุทธ์การตอบสนองต่อภัยคุกคาม เพื่อให้เข้าใจถึงรูปแบบการโจมตีของแฮกเกอร์และสามารถดำเนินการตัดสินใจเพื่อรับมือกับการโจมตีได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าจะไม่เคยประสบกับการโจมตีนั้นมาก่อนก็ตาม

2. เตรียมพบ Ransomware รูปแบบใหม่ ที่เทคโนโลยี เป้าหมาย และค่าไถ่ต่างไปจากเดิม

การเรียกค่าไถ่จากแคมเปญ Ransomware แบบเดิมๆ จะเริ่มลดลง เนื่องจากโซลูชันสำหรับป้องกัน Ransomware มีให้เลือกมากขึ้น ผู้ใช้มีความตระหนัก และหลายองค์กรเริ่มวางกลยุทธ์สำหรับรับมือกับการโจมตี ส่งผลให้แฮกเกอร์เริ่มปรับเปลี่ยนเป้าหมายไปยังกลุ่มอื่น เช่น ผู้ใช้ทั่วไปที่มีฐานะและอุปกรณ์ Internet of Things แทน นอกจากนี้ เราจะเห็นรูปแบบหรือประเภทของ Ransomware น้อยลงกว่าเดิม เพราะอาชญากรไซเบอร์เริ่มหันไปใช้บริการ Ransomware as a Service มากขึ้น แทนที่จะพัฒนา Ransomware ใหม่ด้วยตนเอง

อย่างไรก็ตาม Ransomware กลับมีเทคนิคในการโจมตีเพื่อเรียกค่าไถ่มากขึ้น แทนที่จะเข้ารหัสหรือบล็อกการเข้าไฟล์เพียงอย่างเดียว ยังมีการเพิ่มการทำลายข้อมูลและการขัดขวางธุรกิจเข้าไปด้วย เพื่อกดดันให้เหยื่อต้องจ่ายค่าไถ่แลกกับการไม่ต้องผจญกับวิกฤตทางธุรกิจ

3. แอปพลิเคชัน Serverless เริ่มแพร่หลาย สร้างช่องทางโจมตีใหม่แก่แฮกเกอร์

แอปพลิเคชันประเภท Serverless เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการพัฒนาแอปพลิเคชัน อย่างไรก็ตามแอปพลิเคชัน Serverless ยังเปราะบางต่อการโจมตีที่อาศัยการทำ Privilege Escalation (การยกระดับสิทธิ์) และ Application Dependencies (การโจมตีแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ส่งผลกระทบต่อแอปพลิเคชันหลัก) รวมไปถึงการโจมตีข้อมูลที่ส่งผ่านไปมาข้ามระบบเครือข่ายและการโจมตีแบบ Denial of Service เนื่องจากสถาปัตยกรรมแบบ Serverless มักมีปัญหาเรื่องการขยายระบบ

เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว กระบวนการพัฒนาและวางระบบของแอปพลิเคชัน Serverless ควรมีการพิจารณาถึงประเด็นด้านความมั่นคงปลอดภัย การรองรับการขยายระบบในอนาคต และการใช้ VPN หรือการเข้ารหัสข้อมูลในการปกป้องทราฟฟิกที่รับส่งบนระบบเครือข่าย

4. ข้อมูลจากครัวเรือนอัจฉริยะถูกแอบเก็บไปใช้ประโยชน์โดยไม่สนความเป็นส่วนบุคคล

บ้านเรือนในปัจจุบันเริ่มนำเอาอุปกรณ์อัจฉริยะเข้ามาใช้งานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ผู้ผลิตหรือผู้ให้บริการอุปกรณ์เหล่านี้เริ่มต้องการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการตลาด ที่สำคัญคือลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับข้อตกลงเรื่องความเป็นส่วนบุคคล ทำให้ผู้ผลิตเหล่านั้นแอบเปลี่ยนเงื่อนไขและข้อตกลงภายหลังเพื่อเก็บข้อมูลโดยไม่ผิดกฎหมาย หรือต่อให้ถูกจับได้ทางผู้ผลิตก็ได้คำนวณค่าปรับเข้าไปในการดำเนินธุรกิจเพื่อป้องกันการขาดทุนด้วยเช่นกัน

5. ข้อมูลออนไลน์ของผู้เยาว์จะถูกนำไปใช้อ้างถึงตัวตนในอนาคต

โลกกำลังถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี มนุษย์ทุกเพศทุกวัยต่างหันมาใช้งานเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม Gen Z หรือกลุ่มวัยเด็กที่เรียกได้ว่าเติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีอย่างแท้จริง ข้อมูลดิจิทัลต่างๆ ที่คนกลุ่มนี้สร้างขึ้นบนโลกออนไลน์จะถูกรวบรวมและถูกนำใช้อ้างอิงถึงตัวตนในอนาคต ซึ่งอาจส่งผลในแง่ร้ายได้ เช่น สถานศึกษาติดสิทธิ์ผู้เข้าสมัคร เนื่องจากพบโพสต์วิดีโอไม่เหมาะสมบน YouTube สมัยยังเป็นเด็ก เป็นต้น

ดังนั้นแล้ว ผู้ปกครองควรศึกษารูปแบบของสื่อและข้อมูลออนไลน์ต่างๆ ไปพร้อมกับเด็กยุคใหม่ เพื่อที่จะได้ให้คำแนะนำว่า สิ่งใดควรออกสื่อ สิ่งใดไม่ควรโพสต์ออกไป และสิ่งใดควรระวัง เพื่อปกป้องเด็กเหล่านั้นจากการถูกนำข้อมูลออนไลน์ไปใช้ในทางที่มิชอบ

ผู้ที่สนใจสามารถอ่านรายงาน McAfee Labs 2018 Threats Predictions Report ฉบับเต็มได้ที่ https://securingtomorrow.mcafee.com/mcafee-labs/2018-threats-predictions/

บทความที่เกี่ยวข้อง